"ถังโต้วโต้ว สาวงามไซซีร้านเต้าหู้ มีมารดาไม่เอาไหนและบิดาผู้ยากจน นางที่แต่งงานช้าเชื่อมั่นว่ามีเพียงชายผู้ล้ำเลิศที่รู้ใจนาง เข้าใจนาง รักนางเท่านั้นจึงคู่ควรกับรักแท้ แต่แล้วบ้านตระกูลถังก็มีคดีความเกิดขึ้นกระทันหันจนทำให้บ้านตระกูลถังล่มสลาย ยังดีที่มีเจ้าของจวนตระกูลเสิ่นมาช่วยไว้ ฮูหยินเจ้าของจวน กู่เซียงผิง ฮูหยินตระกูลเสิ่นเกิดถูกใจโต้วโต้ว จึงให้แต่งงานกับลูกชายคนโตป๋อหนาน ที่ฉลาดเฉลียวมาตั้งแต่แปดขวบ ตระกูลถังเต็มใจแต่งเข้า คิดไม่ถึงว่าคืนวันแต่งงาน โต้วโต้วจึงได้พบว่าป๋อหนานหน้าตาไม่ธรรมดา และสมองเขาก็หยุดอยู่ที่อายุแปดขวบ"

เล่าถึงเรื่องราวโรแมนติกระหว่างพันตรีเหลียงมู่เจ๋อผู้มีอนาคตที่สุดของกองพลพิเศษแห่งเขตทหาร G กับเซี่ยชูแพทย์จากทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในต่างแดน ด้วยภาระหน้าที่ทำให้ทั้งสองได้พบกัน รู้จักกัน รักกัน และร่วมกันเอาชนะผู้ก่อการร้ายลักพาตัว ทำลายแก๊งอาชญากรที่ขโมยความลับทางทหาร ท้ายที่สุดก็กวาดล้างกองกำลังอาชญากรสิ้น ปฏิบัติภารกิจทางทหารและปกป้องผู้เป็นที่รักไปด้วยในเวลาเดียวกัน

บอกเล่าเรื่องราวความรักเรียกเสียงหัวเราะของนายพลพันปี "ลู่เหยียน" (รับบทโดย เหรินเจียหลุน) และผู้นำหมู่บ้านผู้รักความเป็นธรรม "อวี๋เติงเติง" (รับบทโดย หลี่ชิ่น) ลู่เหยียนที่มีพลังวิเศษบังเอิญได้พบกับอวี๋เติงเติงผู้นำหมู่บ้านน้ำใสอย่างไม่คาดคิด และนี่คือจุดเริ่มต้นของพรหมลิขิตแห่งรักนับพันปี

ซีรีส์เรื่องนี้มีพื้นหลังมาจากเมืองปักกิ่งในยุคปี 70 บอกเล่าเรื่องราวการเติบโต ไล่ตามความฝันและปณิธานในการต่อสู้ดิ้นรนของกลุ่มวัยรุ่น การพัฒนาของตัวละครหลักและเพื่อนยากที่ร่วมเผชิญกับการสอบเอนทรานซ์ ลงทะเล ทำธุรกิจ ไปต่างประเทศ เล่นการเมือง ฯลฯ พบเจอความหมายของการต่อสู้ดิ้นรนในระหว่างที่ต่างประคับประคองกันและกัน นางเอกในเรื่องเองก็ได้ผ่านพบกับจุดขึ้นลงของชีวิต การผสมผสานกันและกันของโชคชะตา จากการบรรยายการเปลี่ยนแปลงและเติบโตของผู้คนเบื้องหลังการปฏิรูปและเสรี ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอการพัฒนาอันรวดเร็วของประเทศ ตีความมิตรภาพอันล้ำค่าระหว่างผู้คน แสดงถึงพลังบวกของการปรับปรุงตัวเองและมองโลกในแง่ดี

"สมรภูมิแห่งศรัทธา" ซีรีส์สายลับสาธารณรัฐจีน กำกับโดย เหยาเสี่ยวเฟิง เขียนบทโดย เวิงเหลียงผิง นำแสดงโดย หวังอี้ป๋อ, หลี่ชิ่น และหวังหยาง ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ปี 1929 ถึง 1934 ของ เว่ยรั่วไหล (รับบทโดย หวังอี้ป๋อ) อัจฉริยะทางการเงินที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานระดับล่างของธนาคารกลางก๊กมินตั๋ง เขาได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาอาวุโส เสิ่นถูหนาน (รับบทโดย หวังหยาง) ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาสับสนและลังเลเกี่ยวกับเส้นทางที่เขาควรเลือก ภายใต้อิทธิพลของน้องสาวของเสิ่นถูหนาน สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ เสิ่นจิ้นเจิน (รับบทโดย หลี่ชิ่น) เขาค่อย ๆ เสริมสร้างความเชื่อของคอมมิวนิสต์และเติบโตเป็นนักการเงินที่ภักดีและเป็นหัวหน้าแผนกการเงินของพรรค

ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นคือผู้อยู่รอด เซียวเหยียน (อู๋เหล่ย) ต้องสูญเสียทุกอย่างไปจนหมดสิ้น เมื่อครอบครัวของเขาถูกใส่ร้ายป้ายสีจนมารดาต้องฆ่าตัวตาย เซียวเหยียนต้องทนอยู่กับคำดูถูกเสียดสี จนวันหนึ่งเขาบังเอิญไปปลดผนึกพลังของแหวนแห่งวิญญาณ ทำให้เขาได้พบกับวิญญาณอาจารย์ปู่ (เฉินฉู่เหอ) ที่ถูกจองจำไว้ในแหวน เซียวเหยียนจึงเริ่มต้นฝึกฝนวรยุทธ์กับอาจารย์ปู่และออกเดินทางเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้กับครอบครัว

เป็นซีรีย์สร้างจากนิยายของหลิวเลี่ยนจื๋อผู้เขียนเจินหวนจอมนางคู่แผ่นดิน ซีรีย์นี้ยังเป็นภาคต่อของเจินหวน(ใครยังไม่ดูเจินหวนแนะนำให้ดูค่ะคือที่สุดของเล่ห์กลในวังหลัง)โดยหรูอี้จ้วนจะเป็นรุ่นลูกของเจินหวนซึงเกิดในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง โดยกล่าวถึงเรื่องราวความรักของจักรพรรดินีจี้ฮองเฮาองค์ที่2กับจักรพรรดิเฉียนหลงท่ามกลางการชวงชิงอำนาจของสนมในวังหลังนางและฮ่องเต้ต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมากมายมีทั้งน้ำตาและรอยยิ้มปะปนกันไปจนในที่สุดได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮางองค์ที่2อยู่จุดสูงสุดของสตรีในแผ่นดินและใจของสามี แต่กาลเวลาเปลี่ยนใจคนเปลี่ยนความรักที่สามีมีให้กลับจืดจางขมขื่น บรรดาสนมที่ต้องการล่มนางและความเหินห่างจากสามีทำให้นางเบื่อหน่ายการเป็นฮองเฮาจนได้ทำเรื่องผิดประเพณี(ตัดผมชาวแมนจูจะตัดผมเมื่อตอนพ่อแม่หรือสามีตายเท่านั้น)ในที่สุดนางกลับต้องโดดเดี่ยวในตำหนักแม้จะหวนระลึกถึงวันเก่าอันสวยงามแต่ก็เป็นเพียงเวลาที่ไม่มีวันกลับ ในวาระสุดท้ายของชีวิตนางจากไปโดยไร้คู่ฝังไร้ยศฐา…

ตอนฟ่านเสียนอายุ15ปี พ่อของเขาฟ่านเจี้ยนและสำนักตรวจสอบเฉินผิงผิงสั่งผู้เชี่ยวชาญด้านยาพิษมาอบรมฟ่านเสียนให้รู้จักยาพิษและเรียนรู้วิชาป้องกันตัวต่าง ๆ 4ปีต่อมา ความสามารถฟ่านเสียนอยู่ระดับสูง หลังจากที่ฟ่านเสียนได้เปิดโปงคดีวางยาพิษสำเร็จแล้วนั้น เขาได้เดินทางเข้าเมืองหลวง โดยมีเป้าหมายบางอย่างที่ต้องทำ ฟ่านเสียนใช้ชีวิตที่สงบสุขอยู่ในเมืองหลวง แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อวันหนึ่งเขาได้พบกับเหตุการณ์ถูกล้อมฆ่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ฟ่านเสียนจะต้องพบเจอกับอะไรบ้างในเมืองหลวง

หม่าไจซิง (หลี่ชิ่น) บังเอิญพบเด็กหนุ่มคนหนึ่งในหุบเขาหมาป่า เธอตั้งชื่อให้เขาว่า หลางไจ่ (หวังต้าลู่) ทั้งคู่เที่ยวเล่นกันอย่างมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อฝูงหมาป่าถูกไล่ล่า หลางไจ่เสียสละช่วยหมาป่าตัวน้อยแต่กลับตกลงไปในเหวลึกและหายตัวไป ผ่านไป 8 ปี หม่าไจซิงก็ได้มาพบกับหลางไจ่อีกครั้ง แต่เขากลายเป็น ป๋อหวัง องค์ชายที่มีสถานะสูงส่งและคิดว่าเธอเป็นผู้ทรยศ ในขณะเดียวกัน จี๋ชง (เซียวจ้าน) ชายนักล่าค่าหัวลึกลับได้มาพบหม่าไจซิงและตกหลุมรักเธอ กลายเป็นรักสามเส้าท่ามกลางศึกแย่งชิงอำนาจของราชบัลลังก์

The Song of Glory เพลงรักเพชรฆาต ซับไทย เป็นซีรีส์จีนย้อนยุค อิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการเมืองในราชสำนัก สมัยปลายราชวงศ์หลิวซ่งของฮ่องเต้หลิวอี้หลง ในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ เล่าเรื่องราวของ เสิ่นหลีเกอ/มู่ฉานเกอ(Li Qin หลี่ซิน ) นักฆ่าสาว ที่มีวรยุทธเก่งกาจมาก​ ถูกฝึกฝนมาอย่างเข้มข้นตั้งแต่เด็ก​ และเติบโตมากับพี่น้องเหล่าเด็กกำพร้า​ จนมาวันหนึ่งอาจารย์ของเสิ่นหลีเกอได้มอบหมายภารกิจให้นางเอกกับลูกน้อง​ ไปฆ่าเผิงเฉิงอ๋อง/หลิวอี้หลง(Qin Hao ฉินห่าว) ในวันงานเฉลิมฉลอง... แต่กลับไม่เป็นไปตามแผน!! กลุ่มนักฆ่าล้มเหลวทำภารกิจไม่สำเร็จ​ และเพลี่ยงพล้ำเสียทีให้กับทางการ​ ทำให้ลูกน้องของนางเอกถูกฆ่าตายเกือบหมด​ ส่วนนางเอกนั้นรอดชีวิตเพราะมีคนมาช่วยและสกัดจุดนางเอกไว้ไม่ให้ขยับตัว ทำให้นางเอกไม่สามารถออกไปช่วยลูกน้องได้​ ส่วนกำไล ที่นางเอกพกติดตัวไว้แทนใจหลังจาก​ น้องสาวคนสนิท ตายจากไปจากการล้มเหลวของภารกิจในคราวก่อน​ ได้กลายมาเป็นสมบัติมีค่าที่ฮูหยินของแม่ทัพใหญ่ใช้เป็นเบาะแสสำคัญในการตามหาลูกสาวคนเดียวที่หายไปเมื่อ​ 18​ ปีก่อน​

"หิมะเจ็ดรัตติกาล รักไร้กาลเวลา" เป็นซีรีส์ศิลปะการต่อสู้ย้อนยุคที่กำกับโดย เหรินไห่เทา ("หอดอกบัวลายมงคล") และ เหลียงเซิ่งเฉวียน ("ฮัวเชียนกู่") นำแสดงโดย หลี่ชิ่น ("หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร 1") และ เจิงซุ่นซี ("หอดอกบัวลายมงคล") ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของชางเยว่ มือกระบี่จอมดื้อรั้น ฮั่วจั่นไป๋ (รับบทโดย เจิงซุ่นซี) ตามหายาไปให้ลูกชายของเพื่อน และได้พบกับ เซวียจื่อเย่ (รับบทโดย หลี่ชิ่น) ปรมาจารย์แห่งหุบเขายา เมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันในแต่ละวันเป็นเวลาแปดปี พวกเขาก็มีความหลงใหลในกันและกัน เข้าใจกันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ตกลงที่จะดื่มด้วยกันใต้ต้นเหมยในปีหน้า ทว่าเนื่องด้วยความรับผิดชอบที่แต่ละคนต้องแบกรับ จึงเป็นการยากที่จะแสดงความรู้สึกรักออกมา สุดท้ายเหลือเพียงความเสียใจที่ต้องพรากจากกัน การดื่มและพูดคุยท่ามกลางสายลมและหิมะ การบอกลาที่ห่างไกลนับพันลี้ การพลัดพรากที่ติดค้างในหัวใจ ความรักที่ถูกลิขิตให้คงอยู่ตลอดไปแสดงให้เห็นถึงความโศกเศร้าของชีวิตและความตายของการยึดติดและปล่อยวาง