เรื่องเล่าอันแสนมหัศจรรย์ในยุคปัจจุบัน เล่าเรื่องของ ดร.พาร์นาซัส (Dr Parnassus) และ Imaginarium คือ โชว์การเดินทางที่ผู้ชมไม่อาจเลือกได้ว่าจะได้พบกับแสงสว่าง และความสนุกสนาน หรือความมืด และความเศร้าโศก ท่ามกลางความสุขที่ได้นำทางจินตนาการของผู้อื่น ดร. พาร์นาซัส กลับ ถูกสาปด้วยความลับดำมืด นานมาแล้วเขาเคยเดิมพันกับปีศาจ มิสเตอร์ นิค ซึ่ง ดร. พาร์นาซัสชนะ และได้รับชีวิตอมตะมาครอบครอง หลายศตวรรษผ่านมา เมื่อได้พบกับรักแท้ ดร. พาร์นาซัส เดินพันอีกครั้งกับปีศาจ เพื่อขอแลกชีวิตอมตะของเขากับความเยาว์วัย โดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อลูกคนแรกของเขา ไม่ว่าหญิงหรือชาย มีอายุ 16 ปี ก็จะกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของ มิสเตอร์ นิค ไป

เตรียมพบกับการเปิดฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่จะเปลี่ยนพาเน็มไปตลอดกาล ภาคจบของภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั่วโลกเฝ้ารอคอยมากที่สุดแห่งปีที่สร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์ร้อนแรงที่สุดแห่งทศวรรษ!ถึงเวลาสาหรับศึกการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะกำหนดชะตาของผู้คนทั้งพาเน็ม เมื่อแคทนิส เอเวอร์ดีน(เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ร่วมมือกับเขต 13 และรับข้อเสนอของประธานาธิบดีคอยน์(จูลีแอนน์ มัวร์) ที่จะรับหน้าที่ “ม็อกกิ้งเจย์” สัญลักษณ์และความหวังและผู้นำในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสโนว์ประกาศกร้าวที่จะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับกลุ่มกบฏอีกต่อไปและพร้อมที่จะตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน พวกเขาก็เช่นกันที่พร้อมจะต่อสู้ชนิดที่หากต้องมอดไหม้ อีกฝ่ายก็ต้องมอดไหม้ไปด้วย!

การกลับมาครั้งใหม่ของ สงครามจักรวาล โดยในภาคนี้ จะได้นักแสดงจาก Star Wars VI: Return of the Jedi กลับมารับบทเดิมจากภาคก่อนๆ โดยในภาคนี้ หรือ Star Wars: Episode VII – The Force Awakens จะดำเนินเรื่องในช่วงเวลาประมาณ 30 ปี หลังจากเหตุการณ์ใน Return of the Jedi ไม่ว่าจะเป็น ฮัน โซโล (แฮร์ริสัน ฟอร์ด), เจ้าหญิงเลอา (แคร์รี่ ฟิชเชอร์) , และลุค สายวอล์คเกอร์ (มาร์ค ฮามิลล์) ที่หลายๆคนรู้จักกันดีก็กลับมาแสดงในภาคนี้

หลังจากภาคที่แล้ว Star War: The Force Awakens สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟน ๆ จนหายคิดถึงกันไปแล้ว เรียกได้ว่าขนนักแสดงเก่ากลับมาเพียบ เพื่อร่วมกับนักแสดงใหม่ในการสร้างเรื่องราวไตรภาคที่ 3 ในตระกูล Star Wars ในขณะที่หลายตัวละครโดดเด่นไม่ว่าจะเป็น เรย์ เด็กสาวปริศนาที่มีพลังแฝง หรือฟินน์ จอมทรยศจากสตรอมทรูปเปอร์ ก็มีตัวละครที่จากเราไปเช่นกัน ความตื่นเต้นก็ถูกผลักให้พุ่งสู่จุดสูงสุดเมื่อตอนจบที่ปรากฏภาพของบุคคลที่เรารอคอยกันมานาน นั่นก็คือ ลุค สกายวอล์คเกอร์ กลับมาสานต่อเนื้อเรื่องเป็นอาจารย์ฝึกฝนการใช้พลังให้กับเรย์ ท้ายที่สุดแล้วเรย์จะกลายเป็นเจได หรือผู้รักษาสมดุลระหว่างแสงสว่างหรือความมืดคงต้องติดตามกันต่อไป!!!

สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “The Darkest Minds” ตีพิมพ์เมื่อปี 2012 โดย Alexandra Bracken เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในส่วนหนึ่งของประเทศอเมริกาที่มีโรคระบาด คร่าชีวิตคนอายุต่ำกว่า 20 ปี ไปมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นที่มีพลังพิเศษ ซึ่งถูกพาตัวมาจากครอบครัวเพื่อเข้าร่วมในค่ายที่มีชื่อว่า Christie will play ค่ายที่ฝึกฝนเด็กเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ชั่วร้าย, Amandla Stenberg รับบทเป็น Ruby Daly เด็กสาววัย 16 ปีผู้มีความสามารถพิเศษเป็นพลังจิต เธอได้หลบหนีออกจากค่ายดังกล่าวแล้วไปเข้าร่วมกับกลุ่มเด็กวัยรุ่นเพื่อหลบหนีการตามล่าจากรัฐบาล

เวลคัม ทู มาร์เวิ่น เรื่องราวของ Mark Hogancamp ผู้โชคร้ายที่กลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงหลังจากเขาถูกชายห้าคนรุมทำร้ายปางตาย เขาสูญเสียความทรงจำและพยายามฟื้นความจำในหัวของเขา Hogancamp จึงเริ่มสร้างสงครามโลกครั้งที่สองในบ้านตัวเองด้วยหุ่นเป็นส่วนหนึ่งในการพยายามฟื้นความจำ แต่แล้วเขาก็ถูกขอให้เป็นพยานในเหตุการณ์อันรุนแรงที่จะนำมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง