รหัสสังหาร หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Licence to Kill เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 16 ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ เดอะซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดัคชั่น(EON Production) จัดทำขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งสุดท้ายของ ทิโมธี ดาลตัน ในบทเจมส์ บอนด์ ให้กับค่ายอีโอเอ็น เป็นครั้งที่ 2 เป็นครั้งสุดท้ายของคาโรไลน์ บลิส ในบท มิส มันนี่เพ็นนี เป็นครั้งที่ 5 และครั้งสุดท้ายของ โรเบิร์ต บราวน์ ในบท เอ็ม เช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในพ.ศ. 2532 กำกับโดย จอห์น เกลน ซึ่งภาพยนตร์ซีรีส์เจมส์ บอนด์ เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกที่ไม่ใช้บทประพันธ์ของเอียน เฟลมมิ่ง แต่ใช้บทประพันธ์ของจอห์น การ์ดเนอร์แทน

ในอนาคตอันไกลจักรวาลที่รู้จักกันถูกปกครองโดยจักรพรรดิพาดิชาห์ ชัดดัม IV สารที่มีค่าที่สุดในจักรวรรดิคือยาละลายหรือ "เครื่องเทศ" ซึ่งช่วยยืดอายุและขยายจิตสำนึก เครื่องเทศยังช่วยให้สมาคมการเว้นวรรคการพับพื้นที่อนุญาตให้ปลอดภัยทันทีการเดินทางระหว่างดวงดาว สมาคมกลัวสมรู้ร่วมคิดที่อาจเป็นอันตรายต่อการผลิตเครื่องเทศและส่งทูตที่จะเรียกร้องคำอธิบายจากจักรพรรดิซึ่งแสดงให้เห็นแผนการของเขาที่จะทำลายบ้านอทรัยเด จักรพรรดิกลัวความนิยมที่เพิ่มขึ้นของDuke Leto Atreidesและมีรายงานว่ากองทัพลับที่เขากำลังสะสมอยู่ - คุกคามการปกครองของเขา เขาวางแผนที่จะยกการควบคุมของดาวเคราะห์Arrakis (หรือที่เรียกว่า Dune) ซึ่งเป็นแหล่งเครื่องเทศเพียงแหล่งเดียวของจักรวาลให้กับ House Atreides เมื่อติดตั้งที่นั่นแล้ว Atreides จะถูกซุ่มโจมตีโดยศัตรูเก่าแก่ของพวกเขาHarkonnensด้วยความช่วยเหลือจากกองกำลังSardaukarชั้นยอดของจักรพรรดิ

พ่อมดไฮเทค (อีริค โบโกสลัน) ผู้ละโมภโลภมากได้ยึดขบวนรถไฟ 'แกรนด์คอนติเนนตัล' พร้อมผู้โดยสารรถไฟทั้งขบวน หวังใช้รถไฟขบวนนี้เป็นเครื่องมือยึดดาวเทียมแสวงหาตำแหน่งอาวุธทำลายล้างสูงแต่ "ไรแบค" คือผู้โดยสารคนเดียวที่รอดจากการถูกจับเป็นตัวประกัน รถไฟขบวนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสนามรบดาวเทียมถูกล็อคเป้า ขณะที่ขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันกำลังมุ่งหน้าชนรถไฟขบวนนี้ ไรแบคจะกอบกู้สถานการณ์นี้และช่วยผู้โดยสารทั้งหมดบนรถไฟขบวนนี้ให้ปลอดภัยได้หรือไม่

เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่ม จากสลัมและเกิดขึ้นในวันเกิดปีที่ 13 ของเขา ในการพยายามลักทรัพย์ (ร่วมกับอีกสองคน) ในบ้านของเจ้าของบ้านที่ชั่วร้ายของครอบครัว เขาติดอยู่ในบ้านชานเมืองขนาดใหญ่ของพวกเขาและค้นพบความลับของ “เด็ก” ที่พี่ชายและน้องสาวบ้าๆ บอ ๆ ได้ “เลี้ยงดู” ใต้บันได