A woman struggles with her views on religion, complicated by her attraction to a devout believer.

To protect herself from a revolt by the workers on her family's farm, a reclusive designer locks herself in her armored car. The clock is ticking and the tension rises. Separated by an impenetrable layer of glass, two universes are about to collide.

In the midst of the Mariel boat lift -- a hurried exodus of refugees from Cuba going to America -- an immigration clerk accidentally presumes that dissident Juan Raul Perez and Dorita Evita Perez are married. United by their last name and a mutual resolve to emigrate, Dorita and Juan agree to play along. But it gets complicated when the two begin falling for each other just as Juan reunites with his wife, Carmela, whom he hasn't seen in decades.

เมื่อผู้พิพากษาศาลฎีกาฆ่าตัวตายและพบว่าเลขาของเขาถูกฆาตกรรม ทุกคนชี้ไปที่คาร์ล แอนเดอร์สัน ทหารผ่านศึกไร้บ้านที่หูหนวกและเป็นใบ้ แต่เมื่อแคธลีน ไรลีย์ ทนายความประจำศาลได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีของเขา เธอก็เริ่มเชื่อว่าแอนเดอร์สันอาจบริสุทธิ์ เอ็ดดี้ แซงเกอร์ ลูกขุนซึ่งเป็นนักล็อบบี้ยิสต์ในวอชิงตันก็เห็นด้วย และทั้งคู่ก็เริ่มสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง

เบน บอกไม่ถูกว่าชีวิตเขาต้องการอะไรกันแน่ เขาฝันอยากเป็นคนทำหนัง แต่อุปสรรคมันเยอะเหลือเกิน ทุกวันนี้จึงหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นผู้จัดการโรงหนังอาร์ตเล็กๆ ในเบิร์คลีย์ เบนมีแฟนกับเขาหนึ่งคน เธอชื่อ มิโกะ ซึ่งเป็นทีมงานจัดเทศกาลหนังเอเชียนอเมริกัน เป้าหมายชีวิตของมิโกะสูงกว่าเบนมาก วันหนึ่งเธอจึงย้ายไปทำงานที่นิวยอร์ก และนั่นหมายถึงการต้อง “หยุดพัก” ความสัมพันธ์กับเบนไปโดยปริยาย ระหว่างพักยกความสัมพันธ์ เบนเลยทำในสิ่งที่หนุ่มเอเชียนอย่างเขาใฝ่ฝันมานาน คือการจีบสาวผิวขาวเป็นแฟน แต่ความยุ่งยากที่คาดไม่ถึงก็ตามมา เบนเลยไปขอคำปรึกษาจาก อลิซ เพื่อนสนิทที่รู้สันดานเสียๆ ของเบนเป็นอย่างดี และยินดีที่จะเข้ามา “ช่วย” ให้สถานการณ์ในชีวิตของเขา...วายป่วงยิ่งกว่าเดิม

เมื่อพระอัฐิสัณฐานของ พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ซึ่งสูญหายไปกว่า 500 ปี ถูกขุดพบ จนนำไปสู่การค้นพบความจริงที่ว่าพระองค์ไม่ใช่กษัตริย์ทรราชแห่งประวัติศาสตร์อังกฤษอย่างที่ถูกใส่ร้ายกัน นำโดย ฟิลลิปปา แลงก์ลีย์ นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวเอดินบะระ ที่ตั้งใจจะทำภาพยนตร์เกี่ยวกับกษัตริย์ผู้นี้และพยายามแสดงให้เห็นว่า ประวัติศาสตร์จอมปลอมนั้นแท้จริงแล้วถูกเขียนโดยผู้ชนะ!

In 1985, against the backdrop of Thatcherism, Brian Jackson enrolls in the University of Bristol, a scholarship boy from seaside Essex with a love of knowledge for its own sake and a childhood spent watching University Challenge, a college quiz show. At Bristol he tries out for the Challenge team and falls under the spell of Alice, a lovely blond with an extensive sexual past.

หนังจะเล่าเรื่องราวขของ มิคกี้ และจูลส์ สองโจรคู่รัก ที่พึ่งเสร็จสิ้นจากการปล้นร้านค้าแห่งหนึ่ง แต่แล้วพวกเขาก็ดันซวย รถเสียระหว่างทาง ทำให้ทั้งคู่ได้ตัดสินใจเข้าไปปล้นบ้านหลังหนึ่ง เพื่อหวังหาอุปกรณ์มาซ่อมรถ แต่แล้วทั้งคู่ดันซวยยิ่งกว่าเดิม เมื่อคู่รักที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ดันเป็นพวกโรคจิต ที่ชอบจับคนมาทรมาน และถ่ายคลิป สถานการณ์เลยพลิกจากเหยื่อกลายเป็นล่า และจากคนล่ากลายเป็นเหยื่อ

เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลงานพร็อม แมนดี้ นักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายสนแค่เรื่องการสอบเข้าคณะในฝัน จนกระทั่งเธอได้เริ่มติวหนังสือให้แกรห์ม นักกีฬาบาสดาวดัง

เมื่อนักวิชาการสถาปัตยกรรมชื่อดังล้มป่วยกะทันหันระหว่างทัวร์บรรยาย จิน ลูกชายของเขาต้องติดอยู่ในโคลัมบัส รัฐอินเดียนา เมืองเล็กๆ ในแถบมิดเวสต์ที่มีชื่อเสียงด้านอาคารสไตล์โมเดิร์นนิสต์ที่สำคัญหลายแห่ง จินได้ผูกมิตรกับเคซีย์ นักศึกษาสถาปัตยกรรมรุ่นเยาว์ผู้หลงใหลในศิลปะสถาปัตยกรรมซึ่งทำงานที่ห้องสมุดท้องถิ่น

Inseparable best friends AJ and Moose decide to run the local pool's snack shack after their plan to sell home-brewed beer goes down the drain. Things take a turn when they meet Brooke, an effortlessly cool lifeguard who puts their big plans, and friendship, at risk.

ภาพยนตร์ที่เจาะลึกอาการวิตกกังวลผ่านตัวละครนำวัย 17 ปี อาซ่า โฮล์มส์

หลังจากได้รู้ข่าวพลิกชีวิต คู่รักคู่หนึ่งได้รับความช่วยเหลือมากมายเกินใครคาดคิดจากเพื่อนสนิทของพวกเขาคนหนึ่งที่หยุดทุกอย่างในชีวิตของตัวเองและย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของทั้งคู่จนสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง

การหายตัวไปของเด็กหญิงแปดขวบ ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องที่นำไปสู่ใจกลางปริศนาที่มีอายุหลายสิบปี ในชุมชนชนบทเล็กๆ อย่างแคดโด เลค

เปิดบันทึกเหตุการณ์จริงจากประวัติศาสตร์กับเรื่องราวการสูญเสียที่ทั้งโลกไม่เคยลืม ผลงานการเปิดตัวในฐานะผู้กำกับครั้งแรกของนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ รัสเซล โครว์ ปี คศ.1919 หลังจากการจบสิ้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับล้าน โจชัว คอนนอร์(รัสเซล โครว์) ชาวนาชาวออสเตรเลีย ตัดสินใจที่จะออกเดินทางตามลำพังสู่ประเทศตุรกี ดินแดนที่ลูกชายทั้ง 3 ของเขาหายสาปสูญไปหลังจากเข้าร่วมรบในสมรภูมิกัลลิโพลี ที่นั่นเขาได้พบกับพันโท ซิซิล ฮิลตัน (ไจ คอร์ทนีย์) นายทหารผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการระบุตัวศพทหารนับหมื่น ซึ่งตัดสินใจที่จะช่วยเหลือพ่อคนหนึ่งให้ได้พบกับลูกชายของเขาอีกครั้ง

โซอี้ มิลเลอร์ (โจเซฟีน แลงก์ฟอร์ด) นักศึกษาเอกคอมพิวเตอร์อัจฉริยะผู้ไม่สนใจความรักโรแมนติก ชีวิตของเธอพลิกผันเมื่อแซ็ค (ดรูว์ สตาร์คีย์) นักฟุตบอลชื่อดังของมหาวิทยาลัยเกิดความจำเสื่อมและเข้าใจผิดว่าโซอี้ เป็นแฟนของเขา

ผู้บัญชาการแห่งค่ายเอาชวิทซ์ รูดอล์ฟ เฮิสส์ และ เฮ็ดวิก ภรรยาของเขา มุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตในฝันให้กับครอบครัวในบ้านและสวนอันงดงามที่อยู่ข้างค่ายมรณะแห่งนี้

เมื่อเท็ดดี้ (เควิน ฮาร์ท) เซลส์แมนดาวรุ่งเผลอทำลายที่ทำงานอย่างไม่ได้ตั้งใจ จึงถูกไล่ออกจากงาน เขาไม่มีทางหางานใหม่ดีๆได้ นอกเสียจากมีวุฒิการศึกษามัธยมขั้นต่ำ แต่เขามีก้างสองชิ้นโตๆ ขวางทางเขาอยู่ ก้างชิ้นแรกคือ คาร์รี่ (ทิฟฟานี แฮดดิช) ครูที่ไม่ชอบขี้หน้าตัวตลกนักเรียนโข่งอย่างเขา และตัวปัญหาอีกคนคือ สจ๊วต (ทารัน คิลแลม) ตัวเวรกรรมที่มาตามเอาคืนเท็ดดี้ และพร้อมที่จะทำทุกอย่าง

เรื่องจริงของเซอร์นิโคลัส "นิคกี้" วินตัน นายหน้าหนุ่มชาวลอนดอนที่ช่วยเหลือเด็กชาวยิว 669 คนจากพวกนาซีในช่วงหลายเดือนก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นิคกี้เดินทางไปปรากในเดือนธันวาคมปี 1938 และพบครอบครัวที่หนีการขึ้นสู่อำนาจของพวกนาซีในเยอรมนีและออสเตรีย อาศัยอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง แทบไม่มีที่พักและอาหาร และตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากการรุกรานของพวกนาซี เขาตระหนักทันทีว่าต้องแข่งกับเวลา เขาและทีมสามารถช่วยเด็กได้กี่คนก่อนที่พรมแดนจะปิด ห้าสิบปีต่อมา ในปี 1988 นิคกี้ยังคงหลอนอยู่กับชะตากรรมของเด็กๆ ที่เขาไม่สามารถพามาที่ปลอดภัยในอังกฤษได้ และตำหนิตัวเองเสมอว่าทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ จนกระทั่งรายการโทรทัศน์สดของ BBC เรื่อง "That's Life" ทำให้เขาประหลาดใจด้วยการแนะนำให้เขารู้จักกับเด็กๆ ที่รอดชีวิต ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้ว ในที่สุดเขาก็เริ่มยอมรับความผิดและความเศร้าโศกที่เขาแบกรับมาเป็นเวลาห้าทศวรรษ