After the end of WWII, a young Lithuanian woman and a young Italian man from Stromboli impulsively marry, but married life on the island is more demanding than she can accept.

นักเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด โอลิเวอร์ บาร์เร็ตต์ที่ 4 และนักเรียนดนตรี เจนนิเฟอร์ คาวิลเลรี มีเคมีร่วมกันที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และความรักที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ แม้จะมีภูมิหลังที่ต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ยอมเสี่ยงให้กันและกัน เมื่อแต่งงานกัน พ่อผู้ร่ำรวยของโอลิเวอร์ขู่ว่าจะตัดขาดเขา เจนนี่พยายามคืนดีกับผู้ชายตระกูลบาร์เร็ตต์ แต่ก็ไร้ผล

Photo sequence of the rare transit of Venus over the face of the Sun, one of the first chronophotographic sequences. In 1873, P.J.C. Janssen, or Pierre Jules César Janssen, invented the Photographic Revolver, which captured a series of images in a row. The device, automatic, produced images in a row without human intervention, being used to serve as photographic evidence of the passage of Venus before the Sun, in 1874.

Two impish clowns construct a magic lantern. They prop it up at an angle, and use it to project pictures onto a wall. When the picture show ends, they open up the lantern to reveal a group of dancing girls inside - and this is only the first of the indications that this lantern really is magical.

In this film, Méliès concocts a combination fairy- and morality tale about the foolishness of trying to look too deeply into the workings of an unstable and inscrutable universe. At a medieval school, an old astronomer begins to teach a class of young men, all armed with telescopes, about the art of scrutinising an imminent eclipse. When a mechanical clock strikes twelve, all the young men rush to the windows and fix their telescopes on the heavens.

The background of this picture represents a scene along the beautiful river Seine in Paris. A gentleman enters, and taking a blackboard from the side of the picture, he draws on it a sketch of a novelist. Then, standing in the centre, he causes the living features of his sketch to appear in the place of his own, which is utterly devoid of whiskers. The change is made so mysteriously that the eye cannot notice it until one sees quite another person in the place of the first. Again another sketch is shown on the board, this one being that of a miser; then an English cockney; a comic character; a French policeman, and last of all, the grinning visage of Mephistopheles. It is almost impossible to give this film a more definite description; suffice it to say that it is something entirely new in motion pictures and is sure to please. (Méliès Catalog)

Surviving fragment of a longer film. A magician makes a butterfly woman appear, and a woman in a star. Exhausted, the magician falls asleep and the star woman turns into a spider, dragging the butterfly into her web.

SACRED GROUND tells the fact-based story of a mountain man and his Indian wife who happen upon a partially built cabin and finish it for their own home, not realizing that they occupy a sacred burial ground. A Paiute burial party clashes with the couple and in the ensuing skirmish, the wife is critically wounded while in the middle of childbirth. Bitter over her loss and needing a wetnurse for his baby, he steals one of the Paiute woman who had just lost a baby. In this modern version of Helen of Troy, the battle is on, as he takes on the whole band in a desperate attempt to survive. Written by Dale Roloff

เรื่องราวของ ดร.แฮนนิบอล เล็คเตอร์ จิตแพทย์ ผู้ปราดเปรื่อง ที่ผันตัวเองมา เป็นฆาตกรอำมหิต ฮันนิบอล มีแฟนกลุ่มหนึ่ง ที่คลั่งไคล้ ในวิธีการฆ่า อย่างเลือดเย็น แต่หลักแหลม ของเขา หนึ่งในนั้น คือ ฆาตกร ผู้ไร้ความปรานี ที่รู้จักกันในนาม ทูธแฟรี่ ไอ้เขี้ยวสยอง เจ้าของผลงานฆาตกรรม อันน่าขนลุก ที่เกิดขึ้นใน แอตแลนตา และเบอร์มิงแฮม เกรแฮม นักสืบเอฟบีไอ ผู้มีรอยแผลทางจิต และอดีตคู่ปรับของ เล็คเตอร์ คิดว่าโอกาส ที่จะจับ เจ้าทูธแฟรี่ ไอ้เขี้ยวสยอง นี้ได้ มีหนทางเดียว คือ ต้องเข้าไปให้ถึง ความคิดของ คนหลักแหลม และซับซ้อนพอๆ กัน และนั่นหมายความ ถึงการต้องเผชิญ กับอดีตคู่ปรับ คนสำคัญของเขา ดร. ฮันนิบอล เล็คเตอร์

In May 1940, the fate of World War II hangs on Winston Churchill, who must decide whether to negotiate with Adolf Hitler or fight on knowing that it could mean the end of the British Empire.

A wheelchair-bound photographer spies on his neighbors from his apartment window and becomes convinced one of them has committed murder.

Green Book คือผลงานที่นำแสดงโดยสองนักแสดงฝีมือคุณภาพ วิกโก้ มอร์เทนเซน ผู้เข้าชิงสองรางวัลออสการ์จาก Eastern Promises, Captain Fantastic ร่วมด้วย มาเฮอร์ชาลา อาลี เจ้าของรางวัลออสการ์จาก Moonlight เล่าถึงเรื่องราวของ สองคู่หูต่างขั้วที่จับผลัดจับผลูตระเวนเดินทางไปทั่วตอนใต้ของอเมริกาด้วยกัน “โทนี่ ลิป” (วิกโก้ มอร์เทนเซน) พี่ล่าขาใหญ่เชื้อสายอิตาเลียน-อเมริกันจากย่านบรองซ์ในนิวยอร์ก ต้องมาเป็นคนขับรถให้ “ดอน เชอร์ลีย์” (มาเฮอร์ชาลา อาลี) นักเปียโนคลาสสิคผิวสีระดับโลก ระหว่างที่เขาออกเดินสายขึ้นแสดงในยุค 60 สิ่งเดียวที่นำทางทั้งคู่คือ สมุดปกเขียว ที่บอกสถานที่ที่เป็นมิตรกับคนผิวสี พวกเขาต้องฝ่าทั้งกำแพงแห่งสีผิว ภัยอันตรายต่างๆ เช่นเดียวกับน้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ในการเดินทางครั้งสำคัญนี้

เมื่อช่างภาพวิดีโอไส้แห้งมารับงานในเมืองเล็กๆ ท่ามกลางภูเขาห่างไกล เขาพบว่าลูกค้ามีความคิดบางอย่างที่น่าสยดสยอง

เจ้าของบาร์เท็กซัสจูเลียนมาร์ตี้ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเป็นคนไม่ดีจ้างนักสืบเอกชนที่ร่มรื่น Loren Visser ซึ่งสามารถรับสิ่งที่มาร์ตี้ร้องขอหลักฐาน – ในกรณีนี้ถ่ายภาพ – ภรรยาของเขาแอ๊บบี้และหนึ่งในบาร์เทนเดอร์ของเขา เรย์มีความสัมพันธ์ เมื่อเรย์และแอ๊บบี้รู้ว่ามาร์ตี้ค้นพบเกี่ยวกับพวกเขามันจะช่วยให้พวกเขาวางแผนสำหรับอนาคตของพวกเขาให้ห่างจากมาร์ตี้ในขณะที่อยู่ข้างหน้ากับมาร์ตี้เกี่ยวกับสถานการณ์ มาร์ตี้หันมาจ้างไขควงอีกครั้งคราวนี้จะฆ่าแอ๊บบี้และเรย์และกำจัดร่างของพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะไม่ถูกพบ ความสัมพันธ์ที่เปิดกว้างและสัญญาได้นำไปสู่การกระทำบางอย่างบนพื้นฐานของผลประโยชน์ของตนเองและความขัดแย้งระหว่างผู้เล่นสี่คนซึ่งประกอบไปด้วยความซับซ้อนโดยการสันนิษฐานผิด ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ บาร์เทนเดอร์ของมาร์ตี้ Meurice ที่อาจเพิ่มเข้าไปในสถานการณ์โดยไม่เจตนา

เรื่องราวประหลาดเกี่ยวกับครอบครัว 2 ครอบครัว ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ค่อนข้างจะแตกต่าง แต่มันก็ยังมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่บ้าง โดยครอบครัวของ "กีแทค" จะเป็นครอบครัวที่ยึดติดอยู่กับความร่ำรวย ขณะที่ครอบครัว "พัค" นั้นจะสนุกสนานตื่นเต้นไปกับการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของพวกเขา แต่แล้ววันหนึ่งทั้ง 2 ครอบครัวกลับต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งหนังเรื่องนี้จะสะท้อนให้คุณได้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมบนโลกแห่งความจริงที่พวกเราอาศัยอยู่อย่างเจ็บแสบ

หว่องกาไวกำกับผลงานภาพยนตร์แฝงนัยให้ตีความ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเดียวดายและแปลกแยกในเมืองใหญ่

In post-industrial Ohio, a Chinese billionaire opens a new factory in the husk of an abandoned General Motors plant, hiring two thousand blue-collar Americans. Early days of hope and optimism give way to setbacks as high-tech China clashes with working-class America.

Metal drummer Ruben begins to lose his hearing. When a doctor tells him his condition will worsen, he thinks his career and life is over. His girlfriend Lou checks the former addict into a rehab for the deaf hoping it will prevent a relapse and help him adapt to his new life. After being welcomed and accepted just as he is, Ruben must choose between his new normal and the life he once knew.

Little Women เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันที่ตีพิมพ์ในปี 1868 จากผลงานเขียนของนักเขียนหญิง Louisa May Alcott ว่าด้วยเรื่องราวของ 4 พี่น้องตระกูล March ที่ตัดสินใจออกจากบ้านเดิมของครอบครัวมาใช้ชีวิตกันเอง จากตัวอย่างภาพยนตร์เราจะได้เห็นว่าพวกเธอมีความฝัน Jo March (เซียร์ช่า โรแนน) อยากเป็นนักเขียน, Meg March (เอ็มม่า วัตสัน) อยากเป็นนักแสดง, Amy March (ฟลอเรนซ์ พิวจ์) อยากเป็นจิตรกร และ Beth March น้องสาวตัวน้อย สิ่งที่ทั้ง 4 คนต้องเผชิญและเป็นเหมือนกับแก่นของเรื่อง ก็คือ การต่อสู้กับกรอบของสังคมที่วัดความสำเร็จของผู้หญิงจากการแต่งงาน Little Women เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะเล่าเรื่องราวการก้าวข้ามวัยหรือ Coming of age ของวัยรุ่นสู่การเป็นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นนี่จึงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสมสำหรับคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ดราม่าทั่ว ๆ ไปเท่านั้น แต่นี่เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับเด็กผู้หญิงทุกคน เพื่อตอกย้ำให้รู้ว่าการแต่งงานไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จ หรือคุณค่าเสมอไป หลุดออกจากกรอบเก่า ๆ ไปพร้อม ๆ กันกับ Little Women!!!

แชม เมนเดส ผู้กำกับรางวัลออสการ์ที่เคยมีผลงานอย่าง Skyfall, Spectre และ American Beauty นำเสนอมุมมองที่แตกต่างในภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ในภาพยนตร์ 1917 โดยได้ โรเจอร์ ดีกินส์ ผู้กำกับภาพเจ้าของรางวัลออสการ์ รับหน้าที่ผู้กำกับภาพ ภาพยนตร์ถ่ายทอดมุมมองของสงครามโดยใช้การเล่าเรื่องราวแบบเรียลไทม์ เป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องแบบช็อตเดียว ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเสมือนอยู่ในสนามรบ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารอังกฤษ ประกอบด้วย สคอฟิลด์ (จอร์จ แมคเคย์ จาก Captain Fantastic) และ เบลก (ดีน-ชาร์ลส์ แชปแมน จาก Game of Thrones) ได้รับมอบหมายให้ไปร่วมปฏิบัติการที่ดูเหมือนว่าอาจไม่มีทางสำเร็จ พวกเขาต้องข้ามเขตแดนของข้าศึก เพื่อส่งสารเพื่อให้หยุดการโจมตีทหารนับร้อย