An elderly heiress is killed by her husband who wants control of her fortunes. What ensues is an all-out murder spree as relatives and friends attempt to reduce the inheritance playing field, complicated by some teenagers who decide to camp out in a dilapidated building on the estate.

In the early 1970s, the military dictatorship in Brazil reaches its height. The Paiva family - Rubens, Eunice, and their five children - live in a beachside house in Rio, open to all their friends. One day, Rubens is taken for questioning and does not return.

Eduardo Coutinho was filming a movie with the same name in the Northeast of Brazil, in 1964, when there came the military coup. He had to interrupt the project, and came back to it in 1981, looking for the same places and people, showing what had ocurred since then, and trying to gather a family whose patriarch, a political leader fighting for rights of country people, had been murdered.

Manuel is a fanatical barber for a São Paulo soccer team, Corinthians, and that's why he always gets into trouble with his neighbors and family.

In Bahia, in the late '60s, the alienated college student Lula spends his time protesting in the university, but without political orientation, wandering on the streets, smoking grass, trying to be an actor and having sex. Meanwhile, a common young man stalks women on the streets trying to have intercourse with them.

After a serial killer strangles several women with a necktie, London police identify a suspect—but he claims vehemently to be the wrong man.

When a doctor decides to carry out an AIDS prevention program inside Latin America’s largest prison: the Casa de Detenção de São Paulo - Carandiru, he meets the future victims of one of the darkest days in Brazilian History when the State of São Paulo’s Military Police, with the excuse for law enforcement, shot to death 111 people. Based on real facts and on the book written by Dráuzio Varella.

หลังจากสูญเสียแม่ไป เด็กชายคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า “ซูกินิ” ได้ถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า ที่ซึ่งเขาได้เริ่มเรียนรู้ความหมายของคำว่าความไว้ใจและความรักอย่างแท้จริง

Following the tragic death of her teenage son, Manuela travels from Madrid to Barcelona in an attempt to contact the long-estranged father the boy never knew. She reunites with an old friend, an outspoken transgender sex worker, and befriends a troubled actress and a pregnant, HIV-positive nun.

นางไม้มหัศจรรย์จากกระบอกไม้ไผ่ได้เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวแสนงดงามอย่างรวดเร็วและมีหนุ่มๆ มาหมายปองมากมาย

เรื่องราวหลังหายนะที่ชายผู้โดดเดี่ยวต่อสู้ข้ามทวีปอเมริกาเพื่อปกป้องหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่มีความลับในการช่วยชีวิตมนุษย์

หุ่นเหล็กขนาดมหึมาจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้นตกลงมาสู่พื้นโลก แล้วตามเด็กชายโฮการ์ธ ฮิวจ์ส วัย 11 ขวบไปบ้านของเขา เวลานี้ โฮการ์ธจึงมีทั้งเพื่อนตัวใหญ่และปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่า..เขาจะทำอย่างไรที่จะเก็บเพื่อนยักษ์ขนาด 50 ฟุตเป็นความลับได้? โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้วิตกจริตกับการตามล่า เอเลี่ยนผู้รุกรานโลก จนนำไปสู่การนำกำลังเต็มกองทัพมาเพื่อทำลายเพื่อนยักษ์ตัวนี้

เอเมอรัลด์ เฟนเนลล์ นักสร้างภาพยนตร์ผู้ชนะรางวัลออสการ์ นำเสนอเรื่องราวที่ร้ายกาจอย่างงดงามของความมีอภิสิทธิ์และความปรารถนา เมื่อโอลิเวอร์ ควิก (แบร์รี คีโอกัน) นักศึกษาผู้รู้สึกแปลกแยกจากคนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของฟีลิกซ์ แคตตัน (เจค็อบ เอลอร์ดี) หนุ่มชนชั้นสูงเจ้าเสน่ห์ที่ชวนเขาไปซอลต์เบิร์น คฤหาสต์หรูหราของครอบครัวแสนประหลาดของตนในช่วงฤดูร้อนที่เขาจะไม่มีวันลืม

เนื้อหาเป็นการเล่าถึงตัวโลแกนในช่วง 100-150 ปีก่อนเริ่มภาพยนตร์ เอกซ์เม็น ที่มีชีวิตอมตะผ่านหลายศรรวษ จนถึงการเผชิญหน้ากับ พันเอกวิลเลียม สไตรค์เกอร์ (แดนนี ฮัสตัน) [1] กับโครงการ เวพอน X ที่วูล์ฟเวอรีนได้ร่วมในการทดลองนี้กับมนุษย์กลายพันธุ์คนอื่น[2] รวมถึงร่วมกับพี่น้องร่วมบิดาของเขา เซเบอร์ทูธ (ลีฟ ไชรเบอร์) ที่กลับมาคินความทรงจำที่จะเปลี่ยนชีวิตโลแกนไปตลอดกาล

Superman เป็นตัวละครที่อยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดมา Clark Kent/Kal-El (Henry Cavill) เป็นนักข่าวหนุ่มที่อายุราว ๆ 20 ผู้ที่มีอำนาจและพลังเหนือคนอื่น เขาถูกส่งมาจาก Krypton ที่ซึ่งห่างไกลจากโลกมาก ให้มาอยู่ในโลก Clark ต่อสู้ดิ้นรนอย่างที่สุดกับคำถามที่ว่า "ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?" Clark เป็นลูกชายบุญธรรมของ Martha (Diane Lane) และ Jonathan Kent (Kevin Costner) Clark ค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษเกินมนุษย์ธรรมดา เพราะเมื่อโลกต้องการความมั่นคง หรือแม้แต่จะเกิดการคุกคาม Clark ก็จะกลายเป็น Man of Steel, เพื่อที่จะปกป้องคนที่เขารักและจะส่องแสงเหมือนกับว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความ หวัง

Green Book คือผลงานที่นำแสดงโดยสองนักแสดงฝีมือคุณภาพ วิกโก้ มอร์เทนเซน ผู้เข้าชิงสองรางวัลออสการ์จาก Eastern Promises, Captain Fantastic ร่วมด้วย มาเฮอร์ชาลา อาลี เจ้าของรางวัลออสการ์จาก Moonlight เล่าถึงเรื่องราวของ สองคู่หูต่างขั้วที่จับผลัดจับผลูตระเวนเดินทางไปทั่วตอนใต้ของอเมริกาด้วยกัน “โทนี่ ลิป” (วิกโก้ มอร์เทนเซน) พี่ล่าขาใหญ่เชื้อสายอิตาเลียน-อเมริกันจากย่านบรองซ์ในนิวยอร์ก ต้องมาเป็นคนขับรถให้ “ดอน เชอร์ลีย์” (มาเฮอร์ชาลา อาลี) นักเปียโนคลาสสิคผิวสีระดับโลก ระหว่างที่เขาออกเดินสายขึ้นแสดงในยุค 60 สิ่งเดียวที่นำทางทั้งคู่คือ สมุดปกเขียว ที่บอกสถานที่ที่เป็นมิตรกับคนผิวสี พวกเขาต้องฝ่าทั้งกำแพงแห่งสีผิว ภัยอันตรายต่างๆ เช่นเดียวกับน้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ในการเดินทางครั้งสำคัญนี้

เรื่องราวประหลาดเกี่ยวกับครอบครัว 2 ครอบครัว ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ค่อนข้างจะแตกต่าง แต่มันก็ยังมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่บ้าง โดยครอบครัวของ "กีแทค" จะเป็นครอบครัวที่ยึดติดอยู่กับความร่ำรวย ขณะที่ครอบครัว "พัค" นั้นจะสนุกสนานตื่นเต้นไปกับการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของพวกเขา แต่แล้ววันหนึ่งทั้ง 2 ครอบครัวกลับต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งหนังเรื่องนี้จะสะท้อนให้คุณได้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมบนโลกแห่งความจริงที่พวกเราอาศัยอยู่อย่างเจ็บแสบ

โนอาห์ บอมบาค ผู้สร้างหนังที่เคยเข้าชิงออสการ์แสดงฝีมือกำกับผลงานที่ถ่ายทอดเรื่องราวอันลึกซึ้งและน่าเห็นใจของคู่แต่งงานที่ต้องแยกทางและการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัว

คลาริซ สตาร์ลิ่ง (โจดี้ ฟอสเตอร์) เอฟบีไอสาว ได้รับมอบหมายให้ตามหาหญิงสาวผู้สูญหาย เพื่อช่วยชีวิตเธอคนนั้นจากฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตผู้ชอบถลกหนังเหยื่อทุกราย และเพื่อที่จะทำความเข้าใจความคิดเบื้องลึกของฆาตกรได้มากขึ้น คลาลิซ จึงได้เข้าไปหาเพื่อพูดคุยกับฆาตกรโรคจิตอีกคนที่ถูกจำคุกอยู่ คือ ฮันนิบาล เลกเตอร์ (แอนโธนี่ ฮอปกิ้นส์) ผู้เคยเป็นถึงจิตแพทย์และยังฉลาดเป็นกรด คลาริซ ที่ต้องการให้ ฮันนิบาล ช่วยในการตามหาฆาตกรจึงพยายามทำทุกวิถีทางให้ ฮันนิบาลยอมเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการช่วยเหลือเหยื่อครั้งนี้ของเธอให้ได้

Little Women เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันที่ตีพิมพ์ในปี 1868 จากผลงานเขียนของนักเขียนหญิง Louisa May Alcott ว่าด้วยเรื่องราวของ 4 พี่น้องตระกูล March ที่ตัดสินใจออกจากบ้านเดิมของครอบครัวมาใช้ชีวิตกันเอง จากตัวอย่างภาพยนตร์เราจะได้เห็นว่าพวกเธอมีความฝัน Jo March (เซียร์ช่า โรแนน) อยากเป็นนักเขียน, Meg March (เอ็มม่า วัตสัน) อยากเป็นนักแสดง, Amy March (ฟลอเรนซ์ พิวจ์) อยากเป็นจิตรกร และ Beth March น้องสาวตัวน้อย สิ่งที่ทั้ง 4 คนต้องเผชิญและเป็นเหมือนกับแก่นของเรื่อง ก็คือ การต่อสู้กับกรอบของสังคมที่วัดความสำเร็จของผู้หญิงจากการแต่งงาน Little Women เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะเล่าเรื่องราวการก้าวข้ามวัยหรือ Coming of age ของวัยรุ่นสู่การเป็นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นนี่จึงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสมสำหรับคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ดราม่าทั่ว ๆ ไปเท่านั้น แต่นี่เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับเด็กผู้หญิงทุกคน เพื่อตอกย้ำให้รู้ว่าการแต่งงานไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จ หรือคุณค่าเสมอไป หลุดออกจากกรอบเก่า ๆ ไปพร้อม ๆ กันกับ Little Women!!!