เนื้อเรื่องของหนังดำเนินเรื่องราวในช่วงปลายยุค 70’s ว่าด้วยเรื่องราวของ Eddie Adams (Mark Walhberg) บริกรหนุ่มผู้เรียนไม่จบสักทีที่ได้รับการชักชวนจาก Jack Horner (Burt Reynolds) ผกก.หนังโป๊ชื่อดังให้มาแสดงหนังให้เขาเพราะเขาเห็นแววดาราใหญ่ในตัว Eddie แต่ Eddie ยังไม่รับข้อเสนอของ Jack ในทันที...จนกระทั่งวันที่เขาทะเลาะขั้นแตกหักกับแม่ตัวเองจนต้องออกจากบ้านไป นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา Eddie ได้เปลี่ยนชื่อตัวเองไปเป็น Dirk Diggler และตกลงปลงใจเป็นนักแสดงหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงในสังกัดของ Jack หนทางแห่งการเป็นนักแสดงใหญ่ของ Dirk ตั้งแต่ยุครุ่งโรจน์ในยุค 70’s ยันยุครุ่งร่วงในยุค 80’s แห่งวงการหนังผู้ใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปนั้น?

เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่เข้าสังคมไม่เก่งและผันผวนได้พบกับความรักในชีวิตหลังจากถูกกลุ่มนักต้มตุ๋นคุกคาม

เมื่อถูกอดีตตามหลอกหลอน ทหารผ่านศึกจากสงครามโลกครั้งที่สองและคนเร่ร่อนอย่างเฟรดดี้ เควล (วาคีน ฟินิกซ์) ก็บังเอิญได้พบกับขบวนการลึกลับที่นำโดยเดอะมาสเตอร์ (ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน) และภรรยาของเขา (เอมี่ อดัมส์)

แดเนียล เพลนวิว (แดเนียล เดย์-ลูวิส) ผันตัวเองจากนักทำเหมืองเงินที่สิ้นเนื้อประดาตัวมาเป็นนักธุรกิจน้ำมันผู้ร่ำรวย เมื่อ แดเนียล ได้รู้ความลับว่าเมืองเล็ก ๆ ที่ออกไปทางตะวันตกนั้นมีแหล่งที่มีน้ำมันปริมาณมหาศาลไหลซึมออกมาจากพื้นดิน เขาจึงพาลูกชายของเขา เอช ดับเบิ้ลยู (แมทท์ ดิลลอน) นั้นมุ่งหน้าไปที่ ลิตเติลบอสตัน

หลังจากเสียศูนย์เมื่อได้ยินคำสารภาพที่คาดไม่ถึงของภรรยา แพทย์จากสังคมชั้นสูงแห่งนิวยอร์กซิตีก็ได้สัมผัสโลกเหมือนฝันที่เร้นลับและเร่าร้อนตลอดทั้งคืน

มือหนึ่งแห่งวงการปราบยาเสพติดสหรัฐอเมริกาเพิ่งได้รู้ว่าลูกสาวของตัวเองติดยา ในผลงานระดับตำนานที่คว้าออสการ์และเรียงร้อยภาพจาก 3 เหตุการณ์สะเทือนขวัญในสงครามยาเสพติด

When a feminist filmmaker sets out to document the mysterious and polarizing world of the Men’s Rights Movement, she begins to question her own beliefs. Chronicling Cassie Jaye’s journey exploring an alternate perspective on gender equality, power and privilege.

Phantom Thread เล่าเรื่องราวของช่างตัดเสื้อในสังคมชั้นสูงของกรุงลอนดอน ยุค 1950 นำแสดงโดย แดเนียล เดย์-ลูวิส ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย พอล โธมัส แอนเดอร์สัน และร่วมแสดงโดย เลสลีย์ แมนวิล (Maleficent), คามิลลา รูเทอร์ฟอร์ด (The Darjeeling Limited) และ วิคกี คริปส์ (A Most Wanted Man)

ชายผู้นี้มีทุกอย่างพร้อมในชีวิต ทั้งเงินทอง หน้าตา และผู้หญิงสวยๆ แต่เขาอาจสูญเสียทุกอย่างไป เมื่อใบหน้าต้องมาเสียโฉมเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

In a short musical film directed by Paul Thomas Anderson, Thom Yorke of Radiohead stars in a mind-bending visual piece. Best played loud.

The story of the life and career of eccentric avant-garde comedian, Andy Kaufman.

เป็นเวลาสามปีหลังจากถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่ง Nixon ยังคงนิ่งเงียบ แต่ในช่วงฤดูร้อนปี 1977 อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดผู้แข็งกร้าวและเจ้าเล่ห์ตกลงที่จะนั่งสัมภาษณ์แบบรวมทุกอย่างเพื่อเผชิญหน้ากับคำถามเกี่ยวกับเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งและเรื่องอื้อฉาววอเตอร์เกทที่ทำให้ตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาสิ้นสุดลง นิกสันทำให้ทุกคนประหลาดใจที่เลือกฟรอสต์เป็นผู้สารภาพทางโทรทัศน์ โดยตั้งใจจะเอาชนะนักแสดงชาวอังกฤษผู้ร่าเริงได้อย่างง่ายดาย และรักษาสถานที่ในหัวใจและความคิดของชาวอเมริกัน ในทำนองเดียวกัน ทีมของฟรอสต์ก็เก็บงำความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของเจ้านายที่จะควบคุมตัวเขาเอง แต่เมื่อกล้องหมุนไป ก็เกิดการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบ

หนังดราม่าชวนตื่นเต้น ที่เกี่ยวกับการพิจารณาคดีความในศาลเรื่องนี้ เรือโทแด เนียล คัฟฟี (ทอม ครู๊ซ) ทนายความของกองทัพเรือ ผู้ไม่เคยได้เข้าห้องไต่สวนคดีแม้แต่ครั้งเดียว ได้สู้คดีให้กับทหารนาวิกโยธินอับโชคสองนาย (วูลฟ์แกง โบดิสัน และ เจมส์ มาร์แชล) ในข้อหาฆ่าเพื่อนที่ฐานทัพในคิวบา แม้ว่าแดเนียลค่อนข้างจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนเกียจคร้าน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจทุ่มเททำคดีนี้อย่างเต็มที่ ร่วมกับ นาวาโทกัลโล เวย์ (เดมิ มัวร์) และ เรือโทแซม ไวน์เบิร์ก (เควิน พอลแล็ก) โดยมุ่งไปที่ประเด็นที่ว่า ผู้ตาย คือ พลทหารเรือซานติเอโก ได้รับ "รหัสแดง" (รหัสของการลงโทษแบบลับ) จากการที่ทำอะไรผิดพลาดอยู่บ่อย ๆ โดย นาวา เอกนาธาน เจสเซ็ป (แจ๊ค นิโคลสัน) เป็นผู้สั่ง ในคิวบา เจสเซป กับนายทหารระดับสูงสองนาย (เจ ที วอล์ช และ คีเฟอร์ ซุเธอร์แลนด์) พยายาม จะเฉไฉจากประเด็นที่คัฟฟีเปิด แต่คัฟฟีรู้ว่าเรื่องนี้มีบางอย่างน่าเคลือบเคลือง และท้ายที่สุด อารมณ์ที่อัดแน่นอยู่จึงระเบิดออกมา ในการเผชิญหน้าระหว่างเจสเซ็ปและคัฟฟี

ชาร์ลี คอฟแมน ถูกว่าจ้างให้เขียนบทภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับหนังสือยอดนิยมของ ซูซาน ออร์ลีน เรื่อง The Orchid Thief เป็นเรื่องเกี่ยวกับกล้วยไม้ และนักสะสมกล้วยไม้ เขาหนักใจมากเนื่องจากการทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดแล้วเกี่ยวกับกล้วยไม้ แถมยังต้องทำให้น่าสนใจนั้น มันเป็นเรื่องยาก

เมื่ออดีตสายลับบ้าเลือดขู่จะใช้อาวุธชีวภาพมรณะ ยอดจารชนอีธาน ฮันท์จึงต้องเร่งปฏิบัติการระห่ำข้ามโลก เพื่อหยุดยั้งตัวการ

Erika Kohut, a sexually repressed piano teacher living with her domineering mother, meets a young man who starts romantically pursuing her.

In the 1930s, bored waitress Bonnie Parker falls in love with an ex-con named Clyde Barrow and together they start a violent crime spree through the country, stealing cars and robbing banks.

Paralyzed in the Vietnam war, Ron Kovic becomes an anti-war and pro-human rights political activist after feeling betrayed by the country he fought for.

Johan and Marianne are married and seem to have it all. Their happiness, however, is a façade for a troubled relationship, which becomes even rockier when Johan admits that he's having an affair. Before long, the spouses separate and move towards finalizing their divorce, but they make attempts at reconciling. Even as they pursue other relationships, Johan and Marianne realize that they have a significant bond, but also many issues that hinder that connection.

“The Third Murder” เล่าเรื่องราวของทนายความ “ชิเกโมริ” ผู้รับผิดชอบคดีของ “มิซูมิ” ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม-ปล้นชิงทรัพย์ ซึ่งติดคุกจากข้อหาฆาตกรรมในอีกคดีหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน โอกาสที่ชิเกโมริจะชนะคดีได้นั้นค่อนข้างน้อย เพราะลูกความของเขายอมรับผิดโดยดุษณี แม้จะต้องได้รับโทษประหารก็ตาม แต่เมื่อเขาขุดลึกลงไป ได้ฟังคำให้การของครอบครัวฝั่งเหยื่อและฝั่งของมิซูมิมากเท่าไหร่ ชิเกโมริผู้เปี่ยมด้วยความมั่นใจก็เริ่มเอะใจขึ้นทุกขณะว่าลูกความของเขาเป็นฆาตกรตัวจริงอย่างนั้นหรือ…