เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางเอกเธอนั้นตัดสินใจที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งโดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้นั้นส่วนมากนักศึกษาจะเป็นผู้ชายและมีแค่ไม่กี่คนที่เป็นผู้หญิงการที่เธอได้เข้ามาที่นี่นั้นเธอไม่เคยที่จะแอบชอบชายไหนเลย จนกระทั่งได้มาเจอกับพระเอกเธอเริ่มตกหลุมรักพระเอกในด้านความเพอร์เฟคและความสามารถที่พระเอกมีเธอจึงรวบรวมความกล้าของตัวเองไปสารภาพรักกับพระเอกแต่แล้วเธอก็ได้คำตอบกลับมาว่าพระเอกตกลงแต่เล็กๆในใจพระเอกแล้วนั้นกลับคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเธอขึ้นมา

เป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของกู้เซิง นักศึกษาชั้นปีที่สี่ที่หลงใหลในเสียงดนตรียืนหยัดทำตามความฝัน ยึดถือตัวตนซ่อนเร้นซึ่งก็คือ “เสียงเอื่อย ๆ” มนุษย์ล่องหนในกลุ่มคนรักวัฒนธรรมสไตล์โบราณอย่างเงียบๆ เธอยังเฝ้าตั้งตารอจะได้ร่วมงานกับ “เชียงชิงฉือ” เทพใหญ่ในวงการพากย์เสียงคนที่ทำให้หัวใจเต้นของตัวเองสักครั้ง ด้วยโอกาสประจวบเหมาะ เธอบังเอิญได้พบกับม่อชิงเฉิงในฐานะ “เชียงชิงฉือ”ในงานอีเว้นท์หนึ่งโดยบังเอิญ ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนรัก ทั้งสองคนค่อย ๆ ใกล้ชิดกันขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นม่อชิงเฉิงใช้ของอร่อยและเสียงเป็นเหยื่อล่อ เริ่มแผนการไล่ตามความรักที่ค่อยๆ ล่อเธออย่างช้าๆ กว่ากู้เซิงจะรู้ตัว เธอก็ติดกับดักแสนหวานที่ม่อชิงเชิงวางแผนไว้นานแล้วเป็นที่เรียบร้อย...

รายงานต่อต้านกลุ่มบริษัทจวี้หลุนกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงในเมืองชางไห่ที่ปกปิดความจริงเกี่ยวกับหายนะของเหมือง ทำให้ชวีเจียงเหอ (แสดงโดย พันเยว่หมิง) รองผู้อำนวยการสถานีตำรวจให้ความสำคัญกับการรณรงค์ต่อต้านความชั่วร้ายนี้ เมื่อเขาเข้าสู่การสอบสวน เขาพบว่าในความเป็นจริงไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างขาวกับดำ ด้วยการเอื้อประโยชน์มากมาย ฝ่ายตรงข้าม เพื่อน และแม้แต่ผู้บังคับบัญชาของเขาจึงเรียกร้องให้ปกปิดความจริง และเยี่ยนเกอ (แสดงโดย เฉินซู่) ผู้กำกับหญิงที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งก็ไม่ได้คิดว่าความจริงจะโหดร้ายขนาดนี้ การปกปิดเป็นความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่าความชั่วร้ายเองเสียอีก

เฉิงเหยา หญิงสาวแสนทะเยอทะยานผู้มีความฝันอยากจะเป็นทนายได้ตำแหน่งในสำนักงานกฎหมายแถวหน้า เพราะอยากอาศัยอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน เธอจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่ในย่านใกล้ ๆ สำนักงาน แต่เจ้าของตึกดันให้เช่าซ้อนและทำให้เธอตกใจจนทำให้เกิดความขัดแย้งกับผู้เช่าอีกคน กลายเป็นว่าผู้เช่าคนนั้นคือเฉียนเหิง หัวหน้าสำนักงานกฎหมายของเฉิงเหยา ในการทำงานวันแรก เฉียนเหิงย้ายเธอให้มาอยู่ทีมเขาและเสนอให้มีการฝึกอบรมแสนเข้มงวด อย่างไรก็ตาม เจตนาที่แท้จริงเบื้องหลังการฝึกอบรมคือเพื่อกำจัดเฉิงเหยาที่ได้ตำแหน่งผ่านเส้นสาย เฉิงเหยาที่ไม่รู้เรื่องคิดว่าตัวเองโชคดีและทุ่มเทให้กับการฝึกอบรมแสนท้าทาย ทำให้เฉียนเหิงประทับใจในความตั้งใจและผลงานที่ยอดเยี่ยมของเธอ

จางหมิ่น (จางเจ๋อฮั่น) เดินทางมายังฝรั่งเศสเพื่อจัดการบ้านพักและไร่องุ่นที่คุณปู่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดก แต่เมื่อเดินทางมาถึงจางหมิ่นกลับพบว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่ได้รับมรดก แต่ยังมี หลัวซี (จางรั่วหนาน) หญิงสาวที่คุณปู่รับมาเลี้ยงดูได้รับกรรมสิทธิ์ไร่องุ่นและโรงงานผลิตไวน์ทั้งหมดไป จางหมิ่นพยายามเจรจาต่อรองเพื่อนำไร่องุ่นไปขายต่อ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงหลัวซีก็ไม่ยอมตอบตกลง แผนการเพื่อยึดครองที่ดินผืนงามจึงเริ่มต้นขึ้นโดยมีหัวใจของทั้งคู่เป็นเดิมพัน

พื้นที่ภัยพิบัติทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนนำพาทีมแพทย์กู้ภัยและอาสาสมัครมา ในทีมยังมีนักแสดงหญิง ฉินเฝ่ย (รับบทโดย จางอวี่ซี) มาด้วย ทุกคนล้วนบอกว่าฉินเฝ่ยมาเป็นอาสาสมัครเพื่อสร้างภาพเท่านั้น ทว่าฉินเฝ่ยกลับทำงานหนักและเสียสละเพื่อช่วยผู้อื่นในช่วงเวลาวิกฤติ ขณะที่ได้ใช่เวลาร่วมกันทั้งกลางวันและกลางคืน สิงจือจื่อ (รับบทโดย เฉินซิงซวี่) หัวหน้าทีมแพทย์สังเกตเห็นความเข้มแข็งและความมีน้ำใจของฉินเฝ่ย ทั้งสองจึงเข้าใจกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฉินเฝ่ยยังค้นพบว่าตอนที่ตัวเองประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อนขณะเข้าร่วมการแข่งขันเต้น แพทย์หนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอในช่วงเวลาวิกฤติและทำให้เธอมีความหวังอีกครั้งก็คือสิงจือจื่อ โชคชะตาของพวกเขาถูกกำหนดมานานแล้ว ทั้งสองช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชีวิตส่วนตัวและทำงานหนักในอาชีพการงานของพวกเขา

ด้วยความผูกพันมาตั้งแต่วัยเยาว์ หญิงสาวสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกัน ลู่เข่อและเสิ่นซืออี๋กลายเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดของกันและกัน แต่เพราะนิสัยเผด็จการไร้เหตุผลของเสิ่นซืออี๋ ทำให้หญิงสาวสองคนตัดสัมพันธ์กันเด็ดขาดในช่วงฤดูร้อนหลังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เสิ่นซืออี๋ไปต่างประเทศ เก้าเดือนต่อมา ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง ก็ตัดสินใจปล่อยวางปมในใจ มุ่งมั่นเคียงบ่าเคียงไหล่ เริ่มต้นอาชีพการงาน มิตรภาพและความรักอีกครั้ง